สอนคำนวณ ซื้อสินค้าช่วง Easy E-Receipt ปี 68 ได้เงิน คืนภาษี กี่บาท ?

สอนคำนวน ซื้อสินค้าช่วง Easy E-Receipt ปี 68 ได้เงินคืนภาษีกี่บาท ?

การจัดการภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในปี 2568 ที่มีมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ซึ่งช่วยให้ผู้มีรายได้สามารถลดหย่อนภาษีได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะสอนคุณคำนวณเงิน “คืนภาษี” และวิธีใช้สิทธิประโยชน์ให้คุ้มค่า

Easy E-Receipt คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?

เฉลยคำตอบ Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร ?

Easy E-Receipt คือโครงการที่เปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าและบริการภายในระยะเวลาที่กำหนด (16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568) โดยใช้ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt

สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่คุณควรรู้จากโครงการ Easy E-Receipt 2.0

1. ลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท
• ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT ได้ลดหย่อนไม่เกิน 30,000 บาท
• ซื้อสินค้า OTOP หรือจากวิสาหกิจชุมชนได้ลดหย่อนไม่เกิน 20,000 บาท
(โดยยอดการคำนวณลดหย่อนภาษีสูงสุดต้องไม่เกิน 50,000 บาท)

2. ลดหย่อนรวมได้แม้ซื้อหลายครั้ง
ยอดซื้อสามารถรวมกันได้ แต่ไม่เกินวงเงินกำหนดสูงสุดที่ 50,000 บาท
ยกตัวอย่าง เช่น
– ซื้อสินค้าทั่วไป ที่ร้าน A จำนวน 20,000 บาท
– ซื้อสินค้าทั่วไป ที่ร้าน B จำนวน 10,000 บาท
– ซื้อสินค้า OTOP ที่ร้าน C จำนวน 5,000 บาท
– ซื้อสินค้า OTOP ที่ร้าน D จำนวน 15,000 บาท

รวมซื้อสินค้าทั้งหมด 4 ครั้ง
ร้านทั่วไป : (20,000 + 10,000 = 30,000 บาท)
ร้าน OTOP : (5,000 + 15,000 = 20,000 บาท)
สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท

วิธีการคำนวณเงิน “คืนภาษี” ปี 68 จาก Easy E-Receipt 2.0

ก่อนอื่นที่จะพาไปดูว่า เราจะได้เงินคืนภาษีเท่าไหร่ ต้องพาทุกคนไปรู้ก่อนว่าฐานรายได้ของเรา จะต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ?

รายได้สุทธิทั้งหมดต่อปี (บาท)อัตราภาษี (%)
0 – 150,0000%
150,001 – 300,0005%
300,001 – 500,00010%
500,001 – 750,00015%
750,001 – 1,000,00020%
1,000,001 – 2,000,00025%
2,000,001 – 5,000,00030%
5,000,001 ขึ้นไป35%

    ตัวอย่างการคำนวณภาษี

    รายได้สุทธิ 600,000 บาท
    0 – 150,000 บาท: ไม่เสียภาษี
    150,001 – 300,000 (300,000 – 150,000) × 5% = 7,500 บาท
    300,001 – 500,000: (500,000 – 300,000) × 10% = 20,000 บาท
    500,001 – 600,000 บาท: (600,000 – 500,000) × 15% = 15,000 บาท
    รวมภาษีที่ต้องจ่าย : 7,500 + 20,000 + 15,000 = 42,500 บาท

    ตัวอย่างการคำนวนการได้เงิน “คืนภาษี

    ตัวอย่างที่ 1 เป็นผู้มีรายได้สุทธิ 480,000 บาทต่อปี
    จะต้องเสียภาษีในฐาน 10% จากรายได้สุทธิ ตามตารางด้านบน ซื้อสินค้ากับ UFicon มูลค่า 30,000 บาท 
    สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ได้เต็มที่ 30,000 บาท
    จะได้เงินคืนภาษี (30,000 x 10%) = 3,000 บาท โดยคำนวณตามฐานภาษีเงินได้ที่ 10% นั้นเอง 

    ตัวอย่างที่ 2 เป็นผู้มีรายได้สุทธิ 480,000 บาทต่อปี
    จะต้องเสียภาษีในฐาน 10% จากรายได้สุทธิ ตามตารางด้านบน ซื้อสินค้ากับ UFicon มูลค่า 10,000 บาท 
    สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ได้ที่ 10,000 บาท
    จะได้เงินคืนภาษี (10,000 x 10%) = 1,000 บาท โดยคำนวณตามฐานภาษีเงินได้ที่ 10% นั้นเอง 

    สินค้าและบริการ ที่ไม่ร่วมลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 ได้

    1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท รวมถึง สุรา เบียร์ และไวน์
    2. สินค้ายาสูบ เช่น บุหรี่ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
    3. เชื้อเพลิงและพลังงาน ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะ
    4. ยานพาหนะและเรือ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือเรือ
    5. ค่าบริการสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการโทรศัพท์ และสัญญาณอินเทอร์เน็ต
    6. บริการภายใต้สัญญา ค่าบริการที่มีข้อตกลงและระยะเวลาเกินกว่าที่มาตรการกำหนด
    7. การจัดนำเที่ยว ค่าบริการที่จ่ายให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เช่น ค่าที่พักโรงแรม หรือโฮมสเตย์

    ซื้อสินค้า Apple กับร้านในเครือ UFicon ออก e-Tax Invoice ได้ทุกชิ้น

    สินค้า Apple ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, AirPods
    อุปกรณ์เสริม เคส, ฟิล์ม, Adapter, สายชาร์จ และสินค้าอื่น ๆ ในร้าน
    สามารถออก e-Tax Invoice ได้ทั้งร้าน เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี

    เลือกซื้อ : iPhone 16iPhone 15iPhone 14iPhone 13
    เลือกซื้อ : iPad ProiPad AiriPad 10thiPad 9th
    เลือกซื้อ : MacBook ProMacBook AirMac miniiMac
    เลือกซื้อ : Apple Watch Ultra 2Apple Watch Series 10Apple Watch SE
    เลือกซื้อ : AirPods Pro 2AirPods 4AirPods 3

    ผ่อนชำระค่าสินค้า พร้อม ใช้สิทธิ์ Easy E-Receipt 2.0

    1. สำหรับลูกค้าซื้อสินค้าที่ “หน้าร้านและสาขา” ของ UFicon
      สามารถเลือกผ่อนชำระค่าสินค้าและบริการได้หลายหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
      • บัตรเครดิต / บัตรกดเงินสด / บัตรสินเชื่อ
      • SPayLater บนแอปฯ Shopee Pay
      • Pay Next Extra บนแอปฯ True Money

      ตรวจสอบ หน้าบัตรเครดิตและธนาคารที่เข้าร่วม > คลิก
    2. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์
      ตอนนี้รองรับการผ่อนชำระสินค้าได้แล้ว!! ด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

      ตรวจสอบ หน้าบัตรเครดิต สำหรับการซื้อบนเว็บไซต์ > คลิก

    ข้อมูลและรายละเอียดอ้างอิงจากเว็บไซต์กรมสรรพากร เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมสรรพกร
    FAQ คำถาม-คำตอบ (Q&A) มาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” อ่านเพิ่มเติม คลิก

    Tags: e-Tax Invoice, Easy E-Receipt 2.0, Easy E-Receipt 2568, ลดหย่อนภาษี2568, ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *