การเปลี่ยนมาใช้ iPhone รุ่นใหม่นับเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการพิจารณาเปลี่ยนจาก SIM Card แบบดั้งเดิมมาใช้ eSIM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Apple ผลักดันอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดถึง eSIM ทั้งในแง่เทคโนโลยี การใช้งานจริงในประเทศไทย พร้อมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียอย่างรอบด้าน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าควรเปลี่ยนมาใช้ eSIM หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อซื้อ iPhone รุ่นใหม่
ทำความรู้จัก eSIM และหลักการทำงาน


eSIM หรือ embedded SIM คือวิวัฒนาการของ SIM Card ที่เปลี่ยนจากการเป็นชิปที่ถอดเปลี่ยนได้มาเป็นชิปที่ฝังอยู่ภายในตัวเครื่องถาวร เทคโนโลยีนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GSMA ตั้งแต่ปี 2016 และถูกนำมาใช้ใน iPhone XS, XS Max และ XR เป็นต้นมา ปัจจุบัน iPhone รุ่นใหม่ ๆ ตั้งแต่ iPhone 14 ที่ขายในสหรัฐฯ ได้ตัดช่องใส่ซิมออกไปแล้วทั้งหมด และรองรับเพียง eSIM เท่านั้น
ชิป eSIM มีขนาดเพียง 6×5 มิลลิเมตร เล็กกว่า Nano-SIM ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันถึง 3 เท่า การที่ไม่ต้องมีช่องใส่ SIM Card ทำให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบโทรศัพท์ให้มีความแข็งแรงและกันน้ำได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นหรือระบบกล้องที่ซับซ้อนมากขึ้น
คุณสามารถดาวน์โหลด “โปรไฟล์ซิม” จากผู้ให้บริการเครือข่าย (AIS, True ในประเทศไทย) เพื่อเปิดใช้งานได้ทันที
- เปิดใช้งานผ่าน QR Code, App ของผู้ให้บริการ, หรือ eSIM Quick Transfer บน iOS รุ่นใหม่
- จัดเก็บ eSIM ได้สูงสุด 8 โปรไฟล์ขึ้นไป ในเครื่องเดียว
- เลือกเปิดใช้งานพร้อมกันได้ 2 เบอร์ (Dual SIM: nano-SIM + eSIM หรือ eSIM + eSIM)
iPhone รุ่นที่รองรับ eSIM


- iPhone XS, XS Max, XR และใหม่กว่า
- iPhone SE (รุ่นที่ 2 และ 3)
- iPhone 13 ขึ้นไปสามารถใช้งาน eSIM ได้พร้อมกันถึง 2 โปรไฟล์ (Dual eSIM)
- iPhone 14, 15 และ 16 รุ่นที่ขายในสหรัฐฯ ไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบกายภาพ ต้องใช้ eSIM เท่านั้น
วิธีตรวจสอบว่า iPhone รองรับ eSIM หรือไม่
ไปที่ Settings > General > About → มองหาหัวข้อ EID หากมีแสดงอยู่ แสดงว่าเครื่องรองรับ eSIM
ข้อดีของ eSIM
- สะดวกในการใช้งาน
ไม่ต้องพกซิมการ์ดเล็ก ๆ อีกต่อไป เพียงสแกน QR Code หรือใช้แอปของค่ายมือถือ คุณก็เปิดใช้งานได้ทันที - เปลี่ยนเบอร์ได้ง่าย
เวลาเดินทางไปต่างประเทศ สามารถซื้อ eSIM แบบ Data-only ออนไลน์แล้วใช้งานได้ทันที ไม่ต้องหาซื้อซิมการ์ดตามสนามบิน - รองรับหลายเบอร์ในเครื่องเดียว
เก็บ eSIM ได้หลายโปรไฟล์ เลือกเปิดเฉพาะที่ต้องการ เช่น เบอร์ส่วนตัว + เบอร์ทำงาน - ปลอดภัยกว่า
หาก iPhone สูญหาย ไม่สามารถถอดซิมไปใช้งานได้ง่าย ๆ เหมือนซิมจริง ผู้ใช้สามารถสั่งระงับผ่าน Apple ID ได้ทันที - โอนย้ายง่ายเมื่อเปลี่ยนไอโฟน
บน iOS 16 ขึ้นไป รองรับ eSIM Quick Transfer สามารถโอน eSIM จากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ได้ภายในไม่กี่นาที
ข้อเสียและข้อจำกัดของ eSIM
- ความยืดหยุ่นน้อยลง – หากต้องใช้โทรศัพท์สำรองที่ไม่รองรับ eSIM จะไม่สามารถย้ายเบอร์ไปใช้ได้ทันที
- ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต – การติดตั้งและโอนย้าย eSIM ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หากอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณอ่อนอาจลำบาก
- บางโปรโมชันยังไม่รองรับ – โดยเฉพาะแพ็กเกจพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับซิมใหม่
- การแก้ปัญหาซับซ้อนกว่า – หากเครื่องมีปัญหาใหญ่จนต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด อาจต้องติดต่อค่ายมือถือเพื่อขอ QR Code ใหม่
- การโอนย้ายอาจซับซ้อน → หาก iPhone มีปัญหาหนัก เช่น เมนบอร์ดเสีย ต้องขอ QR Code ใหม่จากค่ายมือถือ ซึ่งอาจเสียเวลาและมีค่าธรรมเนียม
ขั้นตอนการเปลี่ยนมาใช้ eSIM


การเปลี่ยนจาก SIM Card ทั่วไปมาเป็น eSIM มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ขั้นแรกให้ตรวจสอบว่าไอโฟน ของคุณรองรับ eSIM และไม่ถูกล็อคเครือข่าย จากนั้นติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายที่ใช้อยู่ ทั้ง AIS และ True มีช่องทางให้บริการหลายรูปแบบ
สำหรับ AIS สามารถดำเนินการผ่านแอป myAIS โดยเลือกเมนูบริการ eSIM และทำตามขั้นตอน ระบบจะส่ง QR Code มาให้ หรือสามารถไปที่ AIS Shop พร้อมบัตรประชาชนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้
True ให้บริการผ่าน True Shop ทั่วประเทศ หรือสามารถติดต่อผ่าน Call Center เพื่อขอรับ QR Code ทางอีเมล ขั้นตอนการติดตั้งใน iPhone ทำได้โดยไปที่ Settings > Cellular > Add Cellular Plan แล้วสแกน QR Code ที่ได้รับ
หลังจากสแกน QR Code แล้วไอโฟน จะดาวน์โหลดโปรไฟล์ eSIM และติดตั้งโดยอัตโนมัติ ใช้เวลาประมาณ 2-5 นาที ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ต เมื่อติดตั้งเสร็จ eSIM จะพร้อมใช้งานทันที โดยเบอร์โทรศัพท์และแพ็กเกจทั้งหมดยังคงเหมือนเดิม
การโอนย้าย eSIM เมื่อเปลี่ยน iPhone ใหม่


หนึ่งในข้อดีที่สำคัญของ eSIM คือความสะดวกในการโอนย้ายเมื่อเปลี่ยนไอโฟนใหม่ สำหรับ iOS 16 ขึ้นไป Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ eSIM Quick Transfer ที่ทำให้การโอนย้ายง่ายมาก
วิธีการโอนย้ายทำได้โดยในขั้นตอนการตั้งค่า iPhone ใหม่ เมื่อถึงหน้าจอ Cellular Setup ให้เลือก Transfer from Nearby iPhone จากนั้นนำ iPhone เก่ามาวางใกล้กัน ระบบจะแสดงข้อความยืนยันการโอนย้ายบน iPhone เก่า เมื่อยืนยันแล้วeSIM จะถูกโอนย้ายไปยัง iPhone ใหม่โดยอัตโนมัติ
อีกวิธีหนึ่งคือการโอนย้ายผ่าน iCloud หากไอโฟนทั้งสองเครื่องใช้ Apple ID เดียวกันและเปิดใช้งาน iCloud ระบบจะเสนอให้โอนย้าย eSIM โดยอัตโนมัติในขั้นตอนการตั้งค่า
สำหรับกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีข้างต้นได้ ผู้ใช้ต้องติดต่อผู้ให้บริการเพื่อขอ QR Code ใหม่ ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมประมาณ 50-100 บาท และใช้เวลาดำเนินการประมาณ 15-30 นาที
ตั้งค่า iPhone หลังเปิดเครื่องครั้งแรก < คลิก
โอนย้ายข้อมูล iPhone < คลิก
สำรองข้อมูลก่อนย้ายไปใช้eSIM < คลิก
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ควรใช้ eSIM
eSIM เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ไอโฟน ที่เปลี่ยนเครื่องบ่อย เนื่องจากการโอนย้ายทำได้สะดวกและรวดเร็ว ผู้ที่เดินทางต่างประเทศเป็นประจำจะได้ประโยชน์มากจากความสามารถในการใช้งานหลายเบอร์พร้อมกัน และผู้ที่ต้องการใช้สองเบอร์ในเครื่องเดียวโดยไม่ต้องพกโทรศัพท์สองเครื่อง
นักธุรกิจหรือผู้ที่ต้องการแยกเบอร์ส่วนตัวและเบอร์ทำงานจะพบว่า eSIM ช่วยจัดการได้สะดวก สามารถกำหนดเวลาการใช้งานแต่ละเบอร์ และปิดการแจ้งเตือนจากเบอร์ทำงานในวันหยุดได้
ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยควรพิจารณา eSIM เนื่องจากไม่สามารถถอดออกมาใช้กับเครื่องอื่นได้หากโทรศัพท์สูญหาย และสามารถระงับการใช้งานได้รวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้โทรศัพท์สำรองที่ไม่รองรับ eSIM หรือต้องสลับ SIM บ่อยๆ ระหว่างอุปกรณ์หลายเครื่อง อาจยังไม่เหมาะกับการใช้ eSIM ในขณะนี้ รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร อาจประสบปัญหาในการจัดการ eSIM
ตารางเปรียบเทียบ eSIM vs SIM จริง
หัวข้อ | eSIM | SIM จริง |
---|---|---|
ความสะดวก | ⭐⭐⭐⭐ | ⭐⭐ |
ความปลอดภัย | ⭐⭐⭐⭐ | ⭐⭐ |
การโอนย้าย | ⭐⭐⭐⭐ (Quick Transfer) | ⭐ (ต้องไปศูนย์บริการ) |
รองรับหลายเบอร์ | ได้ (สูงสุด 8 โปรไฟล์) | ได้ แต่ต้องใช้หลายซิม |
ใช้งานข้ามประเทศ | ง่าย (ซื้อ eSIM ออนไลน์) | ยุ่งยาก (ต้องหาซิมประเทศนั้น ๆ) |
บทสรุป
eSIM ไม่ใช่อนาคต แต่คือปัจจุบันแล้ว
ใครที่กำลังจะซื้อไอโฟนใหม่ในปี 2025 ควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้eSIMตั้งแต่ตอนนี้ เพราะ Apple เดินหน้าเต็มตัว และผู้ให้บริการเครือข่ายในไทย (AIS, True) รองรับอย่างสมบูรณ์แล้ว
แม้จะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น โปรโมชั่นที่ยังไม่ครอบคลุม หรือการโอนย้ายที่อาจซับซ้อนในบางกรณี แต่ข้อดีของ eSIM ทั้งในแง่ความสะดวก ความปลอดภัย และการโอนย้ายเมื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทำให้มันกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ใช้ iPhoneไปแล้ว
Tags: eSim, eSim คืออะไร, Get Start with Your New iPhone, iPhone, ตั้งค่าเครื่องใหม่